Telematics คืออะไร ?
ระบบเรียลไทม์สำหรับติดตามประสิทธิภาพการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์และการบำรุงรักษาช่วยเพิ่มเวลาทำงานสูงสุดและลดต้นทุนอีกด้วย
สาระน่ารู้
- ระบบการแจ้งเตือนการชน
- การนำทาง GPS
- การตรวจจับการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ไม่ปลอดภัย
- การซ่อนความลับ
- การติดตามทรัพย์สิน
- การเพิ่มเวลาทำงาน
- การตรวจสอบแบตเตอรี่
- การบำรุงรักษา
- รีโมท START-STOP
Telematics ของ FORX เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างรถโฟล์คลิฟท์กับเครือข่ายโทรคมนาคม ซึ่งมีการใช้งานและประโยชน์มากมายในอุตสาหกรรมรถโฟล์คลิฟท์ซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลและส่งข้อมูลระหว่างรถโฟล์คลิฟท์และระบบสนับสนุนการขับขี่ อื่นๆ เช่น
การนำทาง GPS ระบบการแจ้งเตือนการชน, การตรวจจับการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ไม่ปลอดภัย และซ่อนความลับอื่นๆ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และพัฒนาระบบด้านการจัดการและบำรุงรักษารถยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย
ระบบการแจ้งเตือนการชน (Collision Warning System)
-
ระบบการแจ้งเตือนการชน (Collision Warning System)
เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Telematics ที่ช่วยเตือนคนขับรถโฟล์คลิฟท์ ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน
กับรถหน้าหรือรถข้างเคียง ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์หรือกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับรถหน้าหรือรถข้างเคียง แล้ว
ทำการประมวลผลข้อมูลเพื่อคำนวณหรือแสดงสถานการณ์ของการขับขี่ รถโฟล์คลิฟท์ หากมีความเสี่ยงที่จะ
เกิดการชนกัน ระบบจะทำการแจ้งเตือนคนขับรถโฟล์คลิฟท์ ทางเสียงหรือการ แสดงข้อมูลบนจอภาพ
โดยระบบการแจ้งเตือนการชนสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับ การชนรถและช่วยให้ผู้ขับขี่
รถโฟล์คลิฟท์ มีเวลาปรับตัวและทำการหยุดรถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้เร็วขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ถูก
ออกแบบมาเพื่อช่วยลดอันตรายจากการชนกันของยานพาหนะ โดยระบบนี้จะใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจจับ
ความเร็วและระยะห่างระหว่างรถโฟล์คลิฟท์ เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดการชน และ จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่
เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดการชนขึ้นในเวลาอันใกล้ชิด ระบบนี้มีหลายรูปแบบ เช่น ระบบแจ้งเตือน
การชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ เมื่อตรวจพบการเตรียมตัว
ที่อาจนำไปสู่การชนด้านหน้า ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหลัง (Rear Collision Warning) ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่
รถโฟล์คลิฟท์ เมื่อมีการเบรกจากยานพาหนะข้างหลัง และระบบแจ้งเตือนการชนข้าง
(Side Collision Warning)
สรุป
ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ เมื่อมีการเข้าถึงจุดเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลียงไปทางขวาหรือซ้าย
ระบบการแจ้งเตือนการชนมีประโยชน์อย่างมากในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ และ
ผู้โดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีการเคลื่อนที่อยู่ในความเร็วสูงหรืออยู่ในที่แคบ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่
อันตรายและเป็นการเสี่ยงสูง
-
การนำทาง GPS (Global Positioning System)
เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นหลักของเทคโนโลยี Telematics ซึ่งใช้ระบบจีพีเอสในการระบุตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟท์ โดยระบบจะระบุตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟท์ ที่อยู่บน
แผน ระบบ GPS สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศและสถานการณ์ เช่น ในที่ที่ไม่มีการติดตั้งที่อับสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือในที่ที่ยากต่อการนำทาง และยังช่วยป้องกันการติดตามหรือการสูญหายในการขับขี่ด้วย
ระบุตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟท์
การนำเทคโนโลยีไปใช้ในการรวบรวมข้อมูลและการสื่อสารระหว่างรถโฟล์คลิฟท์ และระบบอื่นๆ เช่น
การสื่อสารข้อมูลระหว่างรถโฟล์คลิฟท์ กับโทรศัพท์มือถือ การเชื่อมต่อระบบกันชน (Collision Warning
System) การติดตามรถโฟล์คลิฟท์ขนส่ง การวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ และอื่นๆ การนำทาง GPS
สรุป
เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นหลักของ Telematics เนื่องจากเทคโนโลยี GPS ช่วยให้เราสามารถติดตามตำแหน่งของ
รถโฟล์คลิฟท์ ได้ แม้ว่ารถโฟล์คลิฟท์ จะอยู่ที่ไกลจากเราและช่วยให้เราสามารถวางแผนเส้น ทางการเดินทางได้
อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Telematics ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ลดความเสียหายจาก
การชนกัน และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
-
การตรวจจับการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ไม่ปลอดภัย (Unsafe Driving Detection)
เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Telematics ที่ช่วยตรวจจับพฤติกรรมขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ที่ไม่ปลอดภัยของคน
รถโฟล์คลิฟท์ โดยระบบนี้ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์หรือกล้องวงจรปิดในการตรวจจับพฤติกรรมขับขี่รถโฟล์คลิฟท์
ตัวอย่างเช่น ตรวจจับการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว การเบรคแบบกระชับ การเลี้ยวเข้าโค้งอย่างแรง และ
การชนกัน หลังจากตรวจจับพฤติกรรมขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะทำการแจ้งเตือนคนขับรถ
โฟล์คลิฟท์ ผ่านอุปกรณ์ที่ติดตั้ง อยู่ในรถโฟล์คลิฟท์ เช่น หน้าจอแสดงผลหรือเสียงเตือน เพื่อแจ้งให้คนขับ
รถโฟล์คลิฟท์ รถตระหนักถึงพฤติกรรมขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ที่ไม่ปลอดภัย การตรวจจับการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์
ไม่ปลอดภัยช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้มากขึ้นและเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการรถยนต์และ
ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ให้ปลอดภัย
-
การซ่อนความลับ
เป็นส่วนหนึ่งของการใช้เทคโนโลยี Telematics ในระบบการจัดการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์และการดูแลรักษา
รถโฟล์คลิฟท์ ซึ่งอาจมีการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เปิดเผยให้ผู้ใช้รถเห็นได้
ตัวอย่างเช่น ในระบบการจัดการขับขี่ของรถโฟล์คลิฟท์ อาจมีการใช้เทคโนโลยีการติดตามตำแหน่งรถโดยใช้
GPS และเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม ระบบนี้อาจมีการซ่อน
ความลับเช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ไม่เปิดเผยให้ผู้ใช้รถเห็นได้ หรือการใช้เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับระบบ
ของผู้ผลิตรถโดยตรง เพื่อทำการวิเคราะห์และตรวจสอบปัญหาทางเทคนิค โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้รถเพิ่ม
ประสิทธิภาพการใช้งานรถและควบคุมการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเป็นอย่างมาก โดยที่ผู้ใช้รถ
ไม่จำเป็นต้องรู้หรือเห็นการใช้งานของเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นอย่างชัดเจน
ข้อมูลจากระบบ Telematics สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ได้ โดยระบบ
Telematics สามารถเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ของรถโฟล์คลิฟท์ได้ เช่น ความเร็วของรถ ระยะทางที่
เคลื่อนที่ การเร่งและการเบรกของรถโฟล์คลิฟท์ รวมถึงการประมวลผลข้อมูล GPS เพื่อช่วยในการวางแผนเส้น
ทางการเดินทาง นอกจากนี้ระบบ Telematics ยังสามารถตรวจจับปัญหาทางเทคนิคและการส่งสัญญาณเตือน
เมื่อเกิดเหตุขัดข้องกับรถ ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การนำเอาข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์
และปรับปรุงการขับขี่ รถโฟล์คลิฟท์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์
ในองค์กร
สรุป
ระบบการจัดการยานพาหนะของเราทำงานเป็นศูนย์รวมตั้งแต่การติดตาม ตำแหน่งรถโฟล์คลิฟท์ การตรวจ
สอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ไปจนถึงการวินิจฉัย ระยะไกล และการตรวจจับข้อผิดพลาดสำหรับการจัดการ
สินทรัพย์ ด้วยตัวติดตาม GPS สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของตนให้เกิดประโยชน์เพื่อการเติบโตของธุรกิจ
การติดตามทรัพย์สิน
ระบบการจัดการรถโฟล์คลิฟท์ด้วย GPS แบบเรียลไทม์ หรือ Real-time
GPS Fleet Management System เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยี GPS ใน
การติดตามตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟท์และเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น
ระยะทางที่เคลื่อนที่ ความเร็วของรถการใช้เชื้อเพลิง การเบรก และ
อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ระบบจะส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังศูนย์กลาง
การจัดการของรถโฟล์คลิฟท์ ซึ่งสามารถดูข้อมูลและควบคุมการ
ใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การใช้ระบบ GPS แบบเรียลไทม์ในการจัดการรถโฟล์คลิฟท์สามารถให้ประโยชน์หลายอย่างได้แก่ผู้ใช้
รถโฟล์คลิฟและบริษัทดังนี้:
- ติดตามตำแหน่งรถโฟล์คลิฟ : ผู้ใช้รถโฟล์คลิฟสามารถติดตามตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟได้เรียลไทม์
ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถโฟล์คลิฟสามารถตรวจสอบว่ารถโฟล์คลิฟยังอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดหรือไม่ หรือพบ
ปัญหาอะไรเกี่ยวกับการเดินทางได้เร็วๆ นี้
- ประหยัดเวลาและต้นทุน : การใช้ GPS สามารถช่วยลดเวลาในการเดินทางและควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย
การตรวจสอบความเร็วและระยะทางที่รถโฟล์คลิฟเคลื่อนที่ รวมถึงปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับขี่
รถโฟล์คลิฟ ทำให้ผู้ใช้รถโฟล์คลิฟสามารถวางแผนการจัดการเวลาและเงินในการดูแลรักษารถโฟล์คลิฟ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควบคุมความปลอดภัย : ระบบ GPS สามารถช่วยให้ผู้ใช้รถโฟล์คลิฟเข้าใจถึงพฤติกรรมขับขี่รถโฟล์คลิฟ
และประวัติการขับขี่รถโฟล์คลิฟ และสามารถจัดการความปลอดภัยของรถโฟล์คลิฟท์ได้ เช่น การตรวจสอบ
ความเร็วขอรถโฟล์คลิฟการตรวจสอบการใช้เบรกของรถโฟล์คลิฟ และตรวจสอบการเปิด-ปิดสตาร์ท
เครื่องยนต์ เป็นต้น
การเพิ่มเวลาทำงาน
ระบบ GPS สามารถตรวจสอบสถานะและสภาพของรถโฟล์คลิฟท์
ได้จากระยะไกล โดยจะส่งข้อมูลการตำแหน่ง และสถานะของรถเช่น
ความเร็ว ทิศทางการเคลื่อนที่ สถานะของแบตเตอรี่ เป็นต้น ไปยัง
เซิร์ฟเวอร์ในเวลาเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ ทันที
ผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารเช่น โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ เพื่อให้
ผู้ดูแลระบบสามารถดูแลรถโฟล์คลิฟท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดปัญหากับรถโฟล์คลิฟท์ได้โดยทันที
โดยทางระบบยังสามารถบันทึกความผิดพลาดของรถได้อีกด้วย
เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำการดูแลรักษารถโฟล์คลิฟท์ให้มี
ประสิทธิภาพสูงสุดได้เสมอ
สรุป
สามารถตรวจสอบสถานะและสภาพของรถโฟล์คลิฟท์ได้จากระยะไกล และส่งข้อมูลการตำแหน่งและสถานะ
ของรถโฟล์คลิฟท์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในเวลาเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ทันทีผ่านทางอุปกรณ์
สื่อสารต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถดูแลรถโฟล์คลิฟท์ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพและป้องกันความเสี่ยงในการเกิดปัญหากับรถโฟล์คลิฟท์ได้โดยทันที นอกจากนี้ระบบยังสามารถ
บันทึกความผิดพลาดของรถโฟล์คลิฟท์ได้อีกด้วยเพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถดูแลรักษารถโฟล์คลิฟท์ให้มี
ประสิทธิภาพสูงสุดได้เสมอครับ
การตรวจสอบแบตเตอรี่
ระบบ BMS บนแบตเตอรี่ช่วยป้องกันความเสียหายของแบตเตอรี่และ
ปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง และ
ระบบ Telematics สามารถเชื่อมต่อกับ BMS เพื่อตรวจสอบสถานะ
และสภาพของแบตเตอรี่ได้เรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับ การ
ใช้งานแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ได้ในระยะยาว อีกทั้งยังช่วย
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถและแบตเตอรี่ ด้วยการใช้งานที่
เหมาะสม และลดการเสียหายของแบตเตอรี่และ อุปกรณ์ในรถ
โฟล์คลิฟท์โดยไม่จำเป็น ดังนั้นการใช้ระบบ BMS และ Telematics
เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการรถโฟล์คลิฟท์ให้มี ประสิทธิภาพและ
ปลอดภัยมากที่สุด
สรุป
การตรวจสอบแบตเตอรี่ด้วยระบบ BMS (Battery Management System) และการเชื่อมต่อกับระบบ
Telematics เป็นสิ่งสำคัญที่มีประโยชน์มากในการบริหารจัดการรถโฟล์คลิฟท์ให้มีประสิทธิภาพและ
ปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้:
- ป้องกันความเสียหายของแบตเตอรี่ : ระบบ BMS ช่วยป้องกันความเสียหายของ แบตเตอรี่โดยการควบคุม
และเฝ้าตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่เช่น อุณหภูมิ แรงดัน และ กระแสไฟฟ้า เพื่อรักษาความปลอดภัยและเพิ่ม
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- ปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง : ระบบ BMS ช่วยปรับการใช้งาน
แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์
ได้ใน ระยะยาว
- ตรวจสอบสถานะและสภาพของแบตเตอรี่เรียลไทม์: การเชื่อมต่อระบบ Telematics เข้ากับระบบ BMS
ช่วยตรวจสอบสถานะและสภาพของแบตเตอรี่เรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับการใช้งานแบตเตอรี่
ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานจริงได้
การบำรุงรักษา
ระบบการจัดการกับรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ GPS นั้นเป็นระบบที่สามารถ
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือของผู้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยผู้ใช้งาน
สามารถตรวจสอบสถานะและตำแหน่งของรถโฟล์คลิฟท์ได้จากที่ไกล้
เคียงหรือจากระยะไกล และสามารถวินิจฉัยปัญหาหรือสถานการณ์
ที่เกิดขึ้นได้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริการหลังการขาย
ยกตัวอย่างเช่น หากพบว่ามีการเกิดความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า
บ่อยครั้งในพื้นที่บางจุด ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวินิจฉัย
และดำเนินการปรับปรุงกับทีมงานได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยัง
สามารถติดตามการใช้งานแบตเตอรี่และระยะทางที่เคลื่อนที่ได้ ของรถ
โฟล์คลิฟท์เพื่อจัดการให้ได้ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดได้ด้วย การใช้ระบบ
Telematics แบบเรียลไทม์ที่เชื่อมต่อกับ GPS และ BMS บนแบตเตอรี่
ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้งานและ จัดการให้เหมาะสมต่อ
สถานการณ์ในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
สรุป
การใช้ระบบ Telematics แบบเรียลไทม์ที่เชื่อมต่อกับ GPS และ BMS บนแบตเตอรี่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ
ตรวจสอบสถานะและสภาพของแบตเตอรี่ได้เรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับการใช้งานและจัดการ
ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์การทำงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานที่ที่รถโฟล์คลิฟท์
ได้เป็นอย่างดี และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการใช้งานแบตเตอรี่และการบำรุงรักษารถโฟล์คลิฟท์ได้
อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถโฟล์คลิฟท์ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ และ
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ในระยะยาวด้วยการใช้งานแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพ
แวดล้อมและการใช้งานจริงๆ ของรถโฟล์คลิฟท์
รีโมท START-STOP
ฟังก์ชันสตาร์ท-หยุดรถจากระยะไกลเป็นฟังก์ชันที่สำคัญอย่างมาก
สำหรับการจัดการรถโฟล์คลิฟท์ โดยเฉพาะในธุรกิจให้เช่ารถโฟล์คลิฟท์
ที่ต้องการตรวจสอบและควบคุมการใช้งานรถโดยอยู่ห่างไกลจากสถานที่
ด้วยการใช้งานฟังก์ชันนี้ ผู้ใช้งานสามารถเปิดและปิดใช้งาน
รถโฟล์คลิฟท์ได้ทันที จากระยะไกล และมีการแจ้งเตือนเมื่อสัญญา
เช่าหมดอายุ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้งานรถได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สรุป
การใช้งานฟังก์ชันรีโมท START-STOP ในรถโฟล์คลิฟท์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเปิดและปิดใช้งาน
รถโฟล์คลิฟท์จากระยะไกล ทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ โดยอยู่ห่างไกลจาก
สถานที่ได้ โดยฟังก์ชันนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจให้เช่ารถโฟล์คลิฟท์ เพราะผู้ใช้งานสามารถ
ควบคุมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ที่รถโฟล์คลิฟท์อยู่จริงๆ ทำให้เป็นการประหยัด
เวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกด้วย สำหรับการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ในธุรกิจให้เช่ารถโฟล์คลิฟท์
การใช้งานฟังก์ชันรีโมท START-STOP เป็นสิ่ง สำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์
ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์
โดยอยู่ห่างไกลได้อีกด้ว