ประเภทและการใช้งานของพาเลท

ประเภทและการใช้งานของพาเลท

ประเภทของพาเลทและการใช้งาน

พาเลท (pallet) เป็นแพลตฟอร์มหรือแผ่นสี่เหลี่ยม ที่ใช้ในการรองรับสินค้าหรือวัตถุดิบในการขนส่ง

และจัดเก็บสินค้า ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ เพราะช่วยให้การจัดเก็บ

และขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประเภทของพาเลท stacked pallets

การกระจายสินค้าและที่ตั้งของสินค้าที่ถูกต้อง ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการด้าน

โลจิสติกส์ คลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าอย่างมาก การติดตั้งระบบการจัดเก็บทางอุตสาหกรรมที่

เหมาะสม

พาเลทคืออะไร?

คือ แพลตฟอร์มหรือแผ่นสี่เหลี่ยมที่ใช้ในการรองรับสินค้าหรือวัตถุดิบเพื่อจัดเก็บและขนส่งใน

อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ พาเลทมักถูกทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้, พลาสติก หรือเหล็ก

และมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักของสินค้าที่วางบนพื้นผิวของพาเลทได้ การใช้

พาเลทช่วยให้การโหลดและขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างปลอดภัย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พาเลทตามขนาด

พาเลท มีขนาดที่แตกต่างกันไปเพื่อตอบสนองความต้องการและการใช้งานที่แตกต่างกันของ

อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต่อไปนี้คือประเภทขนาดพาเลทที่พบบ่อย:

  • พาเลทมาตรฐานหรือ EUR Pallet: ขนาด 1,200 มม. x 800 มม. มีความสูงประมาณ 150 มม.

พาเลทนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในยุโรปและบางส่วนของเอเชีย

พาเลทมาตรฐานหรือ EUR Pallet

พาเลทมาตรฐานหรือ EUR Pallet

ลักษณะสำคัญ :

  • ขนาด : ยาว 800 mm. กับ 1200 mm.
  • วัสดุ : กระดานไม้ 11 ชิ้น, บล็อก 9 ชิ้น, ตะปู 78 ชิ้น
  • น้ำหนักโดยประมาณ : 25 กก.
  • ปริมาณงานที่ปลอดภัยขณะเดินทาง : 1500 กก.
  • โหลดแบบสถิต: เมื่อวางซ้อนพาเลทที่โหลดไว้บนพื้นผิวที่มั่นคงและสม่ำเสมอ พาเลทที่ต่ำที่สุด

ไม่ควรมีน้ำหนักเกิน 5500 กก.

  • ประกอบด้วยเครื่องหมายต่างๆ เพื่อระบุตัวตน เช่น หมายเลขใบอนุญาตและวิธีการรักษา

อย่างไรก็ตามสิ่งที่มองเห็นได้มากที่สุดคือตัวย่อ EPAL

สรุป

พาเลทมาตรฐานหรือ EUR Pallet เป็นพาเลทที่มีขนาด 1,200 มม. x 800 มม. และมีความสูง

ประมาณ 150 มม. มาตรฐานนี้เป็นที่ยอมรับและใช้งานอย่างกว้างขวางในยุโรป โดยเฉพาะใน

การขนส่งสินค้าและการจัดเก็บในระบบโลจิสติกส์ มาตรฐาน EUR Pallet ถูกกำหนดโดยสมาคม

สินค้าและการขนส่งยุโรป (European Pallet Association) เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้อง

กับการใช้งานในประเทศยุโรปและบางส่วนของเอเชีย

  • พาเลทมาตรฐานหรือ ISO Pallet: ขนาด 1,200 มม. x 1,000 มม. มีความสูงประมาณ 150 มม.

เป็นมาตรฐานที่ใช้ในอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเล

พาเลทมาตรฐานหรือ ISO Pallet

พาเลทมาตรฐานหรือ ISO Pallet

ลักษณะสำคัญ :

  • ขนาด : ยาว 1,000 มม. กว้าง 1200 มม.
  • น้ำหนักโดยประมาณ : 25 กก.
  • ปริมาณงานที่ปลอดภัยขณะเดินทาง : 1500 กก.
  • โหลดแบบสถิต : ไม่เกิน 6000 กก. บนพื้นผิวที่เรียบ แข็ง และปลอดภัย

สรุป

พาเลทมาตรฐานหรือ ISO Pallet มีขนาด 1,200 มม. x 1,000 มม. และมีความสูงประมาณ 150 มม.

มาตรฐาน ISO Pallet เป็นมาตรฐานที่ใช้ในอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเล โดยมาตรฐานนี้ได้รับ

การยอมรับและใช้งานอย่างกว้างขวางทั่วโลกในการขนส่งสินค้าทางทะเล พาเลทตามมาตรฐาน ISO

มีความสามารถในการรองรับน้ำหนักและขนาดของสินค้าที่มีค่ามากและเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรม

การส่งออกและนำเข้าทางทะเล

พาเลทอเมริกัน
  • พาเลทขนาดเล็กหรือ Half Pallet: ขนาด 600 มม. x 800 มม. มีความสูงประมาณ 150 มม.

พาเลทนี้มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานและใช้ในกรณีที่ต้องการจัดเก็บหรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดเล็กกว่า

สรุป

พาเลทขนาดเล็กหรือ Half Pallet มีขนาด 600 มม. x 800 มม. และมีความสูงประมาณ 150 มม.

พาเลทนี้มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานสากล เหมาะสำหรับการจัดเก็บหรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดเล็กกว่า

หรือมีน้ำหนักเบากว่าสินค้าที่ใช้พาเลทมาตรฐานใหญ่ พาเลทขนาดเล็กนี้มักถูกใช้ในร้านค้าหรือ

สถานที่ที่มีพื้นที่จำกัดและต้องการจัดเก็บหรือขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • พาเลทพิเศษหรือ Custom Pallet: มีขนาดและรูปร่างที่ออกแบบเฉพาะตามความต้องการของ

ลูกค้า เช่น พาเลทที่มีขนาดไม่เท่ากันหรือมีรูปร่างพิเศษสำหรับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง

พาเลทตามจำนวนจุดเข้า

พาเลท สามารถออกแบบให้มีจุดเข้าได้หลายรูปแบบ โดยมีสองรูปแบบหลักคือ

พาเลทตามจำนวนจุดเข้า
  • พาเลททางเข้า 4 จุด (Four-way Entry Pallet): พาเลทสามารถเข้าถึงจากทุกด้าน รวมถึงทางเข้า

ด้าน 4 ด้าน โดยรถโฟล์คลิฟท์หรืออุปกรณ์กลไกในการขนส่งพาเลทสามารถเคลื่อนย้ายและวาง

พาเลทได้ที่จุดเข้าใดก็ได้

พาเลททางเข้า 4 จุดเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมและการค้า มีความยืดหยุ่นใน

การใช้งานสูง และสามารถปรับใช้กับระบบการจัดเก็บและขนส่งต่างๆ ได้หลากหลาย

  • พาเลททางเข้า 2 จุด (Two-way Entry Pallet): พาเลทสามารถเข้าถึงได้เฉพาะทางเข้าด้าน 2 ด้าน

ที่ตรงข้ามกันเท่านั้น รถโฟล์คลิฟท์หรืออุปกรณ์กลไกในการขนส่งพาเลทจะสามารถนำเข้าและออก

จากพาเลทได้ที่จุดเข้าด้านเดียวเท่านั้น

พาเลททางเข้า 2 จุดมักใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นในการจัดเก็บและขนส่งแบบเฉพาะเจาะจงที่

ไม่ต้องการการเข้าถึงทางเข้าจากด้านอื่น

สรุป

พาเลทตามจำนวนจุดเข้าจะขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะของการใช้งานในแต่ละกรณี

สามารถเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมกับการจัดเก็บและขนส่งสินค้าของคุณได้

พาเลทตามวัสดุการผลิต

พาเลทตามวัสดุการผลิตสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต นี่คือหลาย

ประเภทพาเลทที่พบได้ :

พาเลทพลาสติก (Plastic Pallets): พาเลทที่ผลิตจากวัสดุพลาสติก เช่น HDPE (High-Density

Polyethylene) หรือ PP (Polypropylene) มีความแข็งแรงและความทนทานต่อการใช้งานในสภาพ

แวดล้อมที่ชื้นหรือมีสารเคมี พาเลทพลาสติกมักมีการออกแบบพิเศษเพื่อให้มีคุณสมบัติเช่น

น้ำหนักเบา สามารถสแต็กได้ หรือมีร่องรอยสำหรับเข็นล้อรถลากพาเลท

ข้อดีของพาเลทพลาสติก


  • ความแข็งแรงและทนทาน: พาเลทพลาสติกมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานที่หนักและ

ต่อการกระทบ มันสามารถรองรับน้ำหนักสูงและทนต่อการบิดหรือแรงกระแทกได้ดี ทำให้เหมาะ

สำหรับการโหลดและขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือขนาดใหญ่

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: วัสดุพลาสติกที่ใช้ในการผลิตพาเลทมักมีความทนทานต่อสภาพ

แวดล้อมที่ชื้นหรือมีสารเคมี พาเลทพลาสติกมักไม่เป็นสนิม และไม่เกิดการเน่าเสียหายจากความชื้น

นอกจากนี้ วัสดุพลาสติกยังสามารถทนต่อสารเคมีและกระแทกได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ

  • เชิงทางเศรษฐกิจ: พาเลทพลาสติกมักมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

นอกจากนี้ พาเลทพลาสติกไม่ต้องการการบำรุงรักษาเท่ากับพาเลทที่ผลิตจากวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้หรือ

เหล็ก ซึ่งช่วยลดต้นทุนในระยะยาว

ข้อเสียของพาเลทพลาสติก


  • ราคาสูง: พาเลทพลาสติกมักมีราคาสูงกว่าพาเลทที่ผลิตจากวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้หรือเหล็ก ซึ่งอาจ

เป็นข้อจำกัดสำหรับธุรกิจที่ต้องการจำนวนมากของพาเลท

  • การทำลายและการกำจัด: ในกรณีที่พาเลทพลาสติกเสียหรือถูกทำลาย การกำจัดหรือรีไซเคิลวัสดุ

พลาสติกอาจเป็นแง่ข้อจำกัด เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายได้ง่ายเหมือนวัสดุอื่น ๆ

  • ความยืดหยุ่น: พาเลทพลาสติกมีความยืดหยุ่นมากกว่าพาเลทที่ผลิตจากไม้หรือเหล็ก ซึ่งอาจ

ทำให้เกิดความไม่เสถียรภาพของสินค้าที่อยู่บนพาเลทในบางกรณี

  • การสะสมไฟฟ้าสถิตย์: บางชนิดของพาเลทพลาสติกอาจสะสมไฟฟ้าสถิตย์ได้ง่าย ซึ่งอาจมีผล

กระทบต่อสินค้าที่อยู่บนพาเลทหรือกับระบบการเคลื่อนย้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์

พาเลทไม้ (Wooden Pallets): พาเลทที่ผลิตจากวัสดุไม้ เช่นไม้สน หรือไม้เอ็นจิเนียร์ มักมี

โครงสร้างแข็งแรงและทนทาน พาเลทไม้มีความพอเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องรับน้ำหนักสูงและ

การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หยาบช้าง แต่อาจมีขนาดที่ไม่สม่ำเสมอและมีน้ำหนักใหญ่กว่าพาเลท

ที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆ

ข้อดีของพาเลทไม้


  • ความแข็งแรง: พาเลทไม้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว มันสามารถรองรับ

น้ำหนักสูงและสามารถใช้ในการโหลดสินค้าที่มีน้ำหนักมากได้

  • การกำหนดรูปร่างและขนาด: พาเลทไม้สามารถกำหนดรูปร่างและขนาดตามความต้องการของ

ลูกค้าได้ ซึ่งอาจมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่มากกว่าพาเลทอื่น ๆ

  • ความเป็นธรรมชาติ: พาเลทไม้มีลักษณะธรรมชาติและมีความเป็นกลางทางสิ่งแวดล้อม การใช้

พาเลทไม้สามารถช่วยในการลดการใช้วัสดุพลาสติกและส่งเสริมการใช้วัสดุธรรมชาติ

ข้อเสียของพาเลทไม้


  • ความทนต่อสภาพแวดล้อม: พาเลทไม้อาจมีความทนต่อสภาพแวดล้อมที่ชื้นหรือมีสารเคมีน้อย

กว่าพาเลทพลาสติก การใช้พาเลทไม้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นหรือมีการติดต่อกับสารเคมีอาจทำให้

พาเลทเสียหรือเสื่อมสภาพได้

  • การบำรุงรักษา: พาเลทไม้อาจต้องการการบำรุงรักษาและการดูแลเพิ่มเติมเพื่อรักษาความ

แข็งแรงและประสิทธิภาพในระยะยาว การไม่ดูแลอาจทำให้พาเลทไม้เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น

  • น้ำหนัก: พาเลทไม้มีน้ำหนักมากกว่าพาเลทพลาสติกหรือพาเลทเหล็ก ซึ่งอาจทำให้มีความยาก

ลำบากในการโหลดและขนส่ง

  • ความยืดหยุ่น: พาเลทไม้มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าพาเลทพลาสติก ซึ่งอาจทำให้มีความ

ไม่เสถียรภาพของสินค้าที่อยู่บนพาเลทในบางกรณี

พาเลทกระดาษแข็ง

พาเลทโลหะ (Metal Pallets): พาเลทที่ผลิตจากวัสดุโลหะ เช่นเหล็กหรืออลูมิเนียม มีความแข็งแรง

และทนทานมาก สามารถรับน้ำหนักสูงได้ และเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานต่อ

การสัมผัสกับสารเคมี อย่างไรก็ตาม พาเลทโลหะมักมีราคาสูงกว่าพาเลทจากวัสดุอื่น

ข้อดีของพาเลทโลหะ


  • ความแข็งแรง: พาเลทโลหะมีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว มันสามารถ

รองรับน้ำหนักสูงและสามารถใช้ในการโหลดสินค้าที่มีน้ำหนักมากได้

  • ความยืดหยุ่น: พาเลทโลหะมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งขนาดและรูปร่างที่มากกว่าพาเลทอื่น ๆ

ซึ่งช่วยให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในการโหลดและขนส่งสินค้า

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: พาเลทโลหะมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

หรือมีสารเคมี โดยไม่เสี่ยงต่อการเสียหายหรือเสื่อมสภาพ

  • การนำกลับมาใช้ซ้ำ: พาเลทโลหะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

หลายครั้งโดยไม่เสื่อมสภาพมาก

ข้อเสียของพาเลทโลหะ


  • น้ำหนัก: พาเลทโลหะมีน้ำหนักมากกว่าพาเลทพลาสติกหรือพาเลทไม้ ซึ่งอาจทำให้มีความยาก

ลำบากในการโหลดและขนส่ง และอาจมีการจำกัดในการสแต็กเนื่องจากน้ำหนักที่มากกว่า

  • ความเสียหายต่อสินค้า: พาเลทโลหะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าที่อยู่บนพาเลทได้ เช่น

การเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยข่วนที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการโหลดและขนส่ง

  • ราคา: พาเลทโลหะมีราคาสูงกว่าพาเลทพลาสติกหรือพาเลทไม้ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องลงทุนมากขึ้น

ในการจัดซื้อ

  • สภาพแวดล้อม: การผลิตพาเลทโลหะอาจมีผลต่อสภาพแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานและ

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต

พาเลทกระบะ (Cardboard Pallets): พาเลทที่ผลิตจากวัสดุกระบะหรือแผ่นกระดาษแข็ง มักมี

น้ำหนักเบาและเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักเบาถึงปานกลาง พาเลท

กระบะ มักไม่คงทนต่อน้ำหนักและความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมที่ชื้น แต่สามารถนำกลับมา

ทำรีไซเคิลหรือทำลายได้ง่าย

ข้อดีของพาเลทกระบะ


  • น้ำหนักเบา: พาเลทกระบะทำจากวัสดุกระบะที่มีน้ำหนักเบา เช่น กระบะกระดาษหรือแผ่น

กระดาษกอล์ฟ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการโหลดและขนส่ง

  • ราคาถูก: พาเลทกระบะมีราคาถูกกว่าพาเลทโลหะหรือพาเลทพลาสติก ซึ่งช่วยลดต้นทุนใน

การจัดซื้อ

  • สิ่งทดแทนยังไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้: เนื่องจากพาเลทกระบะทำจากวัสดุกระบะ

จึงสามารถทำลายและนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ยังไม่สามารถนำกลับ

มาใช้ซ้ำได้

  • สภาพแวดล้อม: พาเลทกระบะมีส่วนร่วมในการลดการใช้งานวัสดุพลาสติกหรือโลหะ และ

มีการรับรองว่าเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อเสียของพาเลทกระบะ


  • ความแข็งแรง: พาเลทกระบะมีความแข็งแรงน้อยกว่าพาเลทโลหะหรือพาเลทพลาสติก ซึ่งอาจ

จำกัดในการรองรับน้ำหนักสินค้าที่มีน้ำหนักมาก

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: พาเลทกระบะมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือ

มีสารเคมีน้อยกว่าพาเลทพลาสติกหรือพาเลทโลหะ

  • ความสามารถในการสแตก: พาเลทกระบะมีความเสียหายเมื่อถูกบีบอัดหรือชน และอาจไม่มี

ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาวเมื่อเทียบกับพาเลทพลาสติกหรือพาเลทโลหะ

หากต้องการ พาเลทที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆ หรือต้องการรูปร่างและขนาดที่เฉพาะเจาะจง สามารถสั่ง

ทำพาเลทพิเศษ (Custom Pallets) ตามความต้องการของลูกค้าได้

พาเลทประเภทอื่นๆ

  • พาเลทแบบ พลิกกลับได้ : พาเลทเหล่านี้เป็นพาเลทที่สามารถโหลดงานได้ทั้งจากด้านบนและ

ด้านล่างโดยทั้งสองด้านจะเหมือนกันและเป็นเนื้อเดียวกัน

  • พาเลทแบบปิด : เรียกอีกอย่างว่าพาเลทแบบเรียบ ซึ่งมีด้านเดียวเท่านั้นที่สามารถบรรจุและ

ปิดด้วยระแนงที่ปิดด้านหลังด้านใดด้านหนึ่ง

  • พาเลทแบบมีปีก : มีโครงด้านข้างสองหรือสี่ด้านเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ระบบยึด
พาเลทประเภทอื่นๆ

คำแนะนำสำหรับการโหลดสินค้าบนพาเลท

การเลือกใช้พาเลทที่เหมาะสมและการจัดการพาเลทที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการโหลดและ

ขนส่งสินค้าให้ปลอดภัยและประสิทธิภาพ นี่คือบางแนวทางและปฏิบัติที่สำคัญที่ควรพิจารณา:

  • ตรวจสอบน้ำหนักสินค้า: ก่อนที่จะโหลดสินค้าลงบนพาเลท ตรวจสอบน้ำหนักของสินค้าว่าไม่เกิน

กำหนดสูงสุดที่พาเลทรับได้ และแนะนำให้กระจายน้ำหนักสินค้าให้เป็นระเบียบบนพาเลทเพื่อ ความ

สมดุลของสินค้าและพาเลท

  • ใช้เทคนิคการวางสินค้า: วางสินค้าลงบนพาเลทให้เป็นระเบียบและเรียงลำดับตามหมวดหมู่หรือ

ลักษณะของสินค้า เพื่อให้มีการใช้พื้นที่ประสิทธิภาพและลดความเสียหายในระหว่างการขนส่ง

  • ใช้วัสดุรักษาความปลอดภัย: ในกรณีที่สินค้ามีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวหรือการทำลาย ใช้วัสดุ

รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น ถุงล็อคหรือสายรัดเพื่อรักษาสินค้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องบน

พาเลท

  • ใช้ป้ายกำกับสินค้า: ใส่ป้ายกำกับสินค้าที่ชัดเจนบนพาเลท เพื่อระบุประเภทของสินค้า น้ำหนัก

หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดการและการขนส่ง

  • ใช้เครื่องมือช่วย: ใช้เครื่องมือช่วยเพื่อโหลดและจัดการพาเลทอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รถโฟล์

คลิฟท์ รถลากพาเลท หรือเครื่องเสียงเพื่อควบคุมทิศทางและความเร็วของรถ

  • ฝึกฝนและคำแนะนำในการโหลด: ให้พนักงานที่รับผิดชอบในการโหลดสินค้ารับการฝึกฝนและ

คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการโหลดและจัดการพาเลทที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและลดความ

เสียหายในระหว่างการขนส่ง

  • ตรวจสอบการยึดติดของสินค้า: ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายพาเลทที่มีสินค้าอยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า

สินค้าได้ถูกยึดติดอย่างแน่นหนา และไม่มีส่วนของสินค้าที่ย่อยหรือเป็นอันตรายที่อาจทำให้เกิด

การพลัดพลั้งระหว่างการขนส่ง

การปฏิบัติตามแนวทางและปฏิบัติที่สำคัญเหล่านี้จะช่วยให้โหลดและขนส่งสินค้าบนพาเลทเป็นไป

อย่างปลอดภัย ลดความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการโหลดและขนส่ง