คู่มือการขับรถโฟล์คลิฟท์อย่างถูกวิธี
ผู้ที่ได้รับการอนุญาต และอบรมอย่างถูกต้องเท่านั้น ควรเป็นผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์
ท่านเป็นผู้มีความสามารถพอที่จะขับรถโฟล์คลิฟท์ได้หรือไม่ ?
ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์ที่ท่านใช้งานอยู่บ้างหรือไม่ ?
ท่านสวมเสื้อผ้ารัดกุมและหมวกนิรภัยระหว่างปฏิบัติงานหรือไม่ ?
ก่อนเริ่มงาน ควรตรวจสภาพของรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift)
หยุดคิดสักนิดเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะเริ่มงานประจำวันของท่าน รถโฟล์คลิฟท์ที่จะพร้อมทำงานได้ต้องอยู่ในสภาพที่ดี
พร้อมปฏิเสธการทำงานทันที ถ้าท่านเห็นว่ารถโฟล์คลิฟท์ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำงาน อันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
รายงานโดยทันทีทันใดต่อหัวหน้างาเมื่อตรวจพบสิ่งบกพร่องเสียหาย
หรือเมื่อต้องการซ่อม
หยุดใช้งานชั่วคราวสำหรับรถโฟล์คลิฟท์ที่บกพร่องหรือรถโฟล์คลิฟท์ที่ต้องการซ่อมแซม
จนกว่าจะได้รับการซ่อมให้คืนสภาพเดิม ระลึกไว้เสมอว่าการทำงานที่ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับรถโฟล์คลิฟท์ ที่มีสภาพสมบูรณ์
อย่าใช้รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) บรรทุกน้ำหนักเกิน
ตรวจสอบน้ำหนักของ ของที่จะยกว่าไม่เกินขีดจำกัดของรถโฟล์คลิฟท์ (ในแต่ละรุ่นที่ใช้)
พึงระวังเรื่องน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วง การทำงานจะปลอดภัย ขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่ยก
ไม่เกินขีดจำกัดของรถโฟล์คลิฟท์
เลือกใช้ PALLET ให้เหมาะสมกับของที่จะยก
PALLET ที่ใช้เป็นฐานรองต้องอยู่ในสภาพดี การยุบหรือ
หักพัง เกิดขึ้นเพราะ PALLET อยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรงพอ
ตั้งระยะความกว้างของงานให้พอเหมาะ
ก่อนรถโฟล์คลิฟท์เข้ายกของ จงมั่นใจว่าระยะกว้างของงานอยู่ในระยะที่พอดีกับ PALLET
การจัดระยะความกว้างของงาให้เหมาะสม ช่วยให้การยกของมืความทรงตัวดียิ่งขึ้น
ระมัดระวังและรอบคอบในเรื่องน้ำหนักบรรทุก
ในกรณีที่สิ่งของที่บรรทุกเป็นหีบห่อ ต่างน้ำหนักและขนาดบรรทุกแต่พอควร
รวมทั้งการจัดวางตำแหน่งของหีบห่อ เพื่อความปลอดภัย
น้ำหนักของสิ่งของที่บรรทุกบนงาควรจัดให้ได้ศูนย์ถ่วง
เมื่อบรรทุกของที่มีความกว้างเกินส่วนกว้างของงาควรทำงานด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันสิ่งของที่บรรทุก
เลื่อนหลุดออกจากงา ในกรณีที่รถโฟล์คลิฟท์บรรทุกของที่มีความยาวมากๆ
ระวังสิ่งของที่บรรทุกและหลุดเลื่อนออกจากแผงกั้นหน้ารถยก เช่น ท่อนซุง
อย่ายกของที่บรรทุกไว้สูงขณะที่รถโฟล์คลิฟท์วิ่งผ่านพื้นลาดเอียงต่างระดับ
เมื่อบรรทุกของและรถต้องวิ่งผ่านพื้นลาดเอียงต่างระดับอย่ายกงาที่บรรทุกของไว้สูงๆ
ควรยกให้สูงจากพื้นถนนเพียงเล็กน้อยเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระเทือนเพราะแรงสะดุด ซึ่งอาจทำให้รถคว่ำได้
ห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในระหว่างบริเวณของรถโฟล์คลิฟท์
ห้ามยืนหรือเดินผ่านใต้งาของรถยก ไม่ว่าจะบรรทุกของอยู่หรือไม่
ขณะขับรถโฟล์คลิฟท์อย่ายื่นมือหรือเท้าออกไปเกินส่วนที่เป็นเสาของรถโฟล์คลิฟท์
ห้ามโดยเด็ดขาด มีให้ยื่นมือหรือเท้าออกไปเกินส่วนที่เป็นเสาของรถโฟล์คลิฟท์มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่ได้
ให้ตะแกรงกั้นของและหลังคานิรภัยสำหรับการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ของสูงๆ
ระมัดระวังอย่างเต็มที่เพื่อมิให้มีของเลื่อนหลุดออกจากงา เมื่อใช้งานยกของสูงๆ
เมื่อบรรทุกของอย่ายกงาขึ้นสูงถ้าเสาอยู่ในลักษณะเอนหน้า
เมื่อบรรทุกของอยู่บนงา เสาควรอยู่ในลักษณะตรงหรือ เอนหลังตลอดเวลาเว้นแต่เมื่อจะเข้าวางของลงบนชั้น
เมื่อบรรทุกของและนำรถโฟล์คลิฟท์ออกวิ่งอย่ายกงาสูง
รักษาระดับงาให้สูงจากพื้นถนนประมาณ 100 ถึง 150 มิลลิเมตร (4-6นิ้ว)
อย่ายกงานให้สูงเมื่อบรรทุกของและนำรถโฟล์คลิฟท์ออกวิ่งโดยไม่จำเป็น
ปรับให้เสาเอนหน้าหลังเพื่อให้หีบห่อซึ่งบรรทุกอยู่บนงาแนบชิดกันแผงกั้น
สอดงาเข้าใต้ของที่จะบรรทุกให้สุดความยาว ปรับเสาให้เอนหลังเพื่อให้หีบห่อที่บรรทุกอยู่บนงาแนบชิดกันแผงกั้น
ก่อนออกรถโฟล์คลิฟท์ มองหน้า-หลังให้ดี
ก่อนออกรถโฟล์คลิฟท์ต้องแน่ใจว่า เสา งา และของที่บรรทุกอยู่ในสภาพเรียบร้อย
และเส้นทางที่จะนำรถโฟล์คลิฟท์ออกวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือหลังนั้นว่าง
ออกและหยุดรถโฟล์คลิฟท์อย่างนิ่มนวล
หลีกเลี่ยงการออกหรือหยุดรถโฟล์คลิฟท์โดยเร็วหรือกระตุกโดยเฉพาะเมื่อบรรทุกของหรือเข้าวางของ
อย่าใช้ความเร็วสูงเมื่อจะเลี้ยวรถโฟล์คลิฟท์ ควรลดความเร็วลงแล้วจึงเลี้ยวรถโฟล์คลิฟท์
ใช้รถโฟล์คลิฟท์ด้วยความระมัดระวัง
ขับขี่ด้วยระมัดระวัง โดยใช้ความเร็วให้เหมาะสมพึงระลึกไว้เสมอว่าท่านทำงานอยู่ในบริเวณที่จำกัด
เว้นระยะห่างให้กับรถโฟล์คลิฟท์คันอื่นบ้างเพื่อความปลอดภัย
กะระยะเผื่อรถโฟล์คลิฟท์คันหลังไว้บ้าง ในกรณีที่ต้องหยุดรถโฟล์คลิฟท์โดยกะทันหัน
อย่าแซงรถโฟล์คลิฟท์คันอื่น
อย่าแซงรถโฟล์คลิฟท์คันอื่น ซึ่งวิ่งไปให้เส้นทางเดียวกัน อาจเกิดจุดบอดทำให้มองไม่เห็นอันก่อให้เกิดอันตรายโดย ไม่คาดคิดขึ้น
อย่าขับรถโฟล์คลิฟท์ในขณะที่มีอาการมึนงง หรือใช้รถโฟล์คลิฟท์เป็นเครื่องเล่นตลก
เมื่อท่านจับพวงมาลัยพึงระลึกไว้เสมอว่า ความปลอดภัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดดังนั้นอย่ากระทำการใด ๆ
อันก่อให้เกิดเหตุยุ่งยากแก่ท่านและผู้อื่น
อยู่ในสภาพพร้อมเสมอ อย่าหลับใน
ไม่ว่าจะขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ไปในทิศทางใด ใช้สายตาของท่านให้เป็นประโยชน์
ขับรถโฟล์คลิฟท์ช้าๆ เมื่อผ่านที่เปียกหรือลื่น
ต้องเข้าใจว่ารถโฟล์คลิฟท์อาจจะเสียการทรงตัวในที่เปียกหรือลี่นได้ง่าย เราขับรถโฟล์คลิฟท์มิใช่แข่งแรลลี่ ดังนั้นควรระมัดระวัง
เบาเครื่อง ให้สัญญาณแตรเมื่อจะเลี้ยวหัวมุม
ถ้าสถานที่ทำงานของท่านไม่มีกระจกโค้งให้ดูทางตรง
หัวมุมต้องระมัดระวังเมื่อจะเลี้ยวโดยการเบาเครื่อง
แล้วให้สัญญาณแตร และเลี้ยวไปด้วยความระมัดระวัง
การขับรถโฟล์คลิฟท์ข้ามทางรถไฟ ต้องไปช้าๆ เป็นแนวทะแยง (ดูรูปประกอบ)
การขับรถโฟล์คลิฟท์ที่บรรทุกของเข้ามาทางรถไฟ ย่อมทำให้เกิดกระเทือน ดังนั้นเพื่อลดแรงกระเทือน ควรขับทะแยงมุมออกไป
เพื่อให้ล้อของรถโฟล์คลิฟท์ ข้ามทางรถไฟทีละล้ออันจะช่วยลดแรงกระเทือนได้
หลีกเลี่ยงการที่จะทำให้เสียการทรงตัว
หลีกเลี่ยงการขับรถโฟล์คลิฟท์ลงในหลุ่ม-บ่อ หรือสิ่งกีดขวาง อันจะทำให้รถโฟล์คลิฟท์เสียการทรงตัว
เมื่อยกงาขึ้นสูง พึงระวังสิ่งกีดขวางด้านบน
พึงระวังสิ่งกีดขวางจากระดับสูง เช่น โคมไฟ สายไฟฟ้า
ท่อติดเพดาน ท่อน้ำระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ไม้หรือหิน
ที่วางขวางอยู่บนประตู และสายพานต่างๆ ลดระดับของงา
ลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในบริเวณที่จำกัดความสูง
ระมัดระวังด้านข้าง
เมื่อบรรทุกของที่มีความกว้างที่ยื่นเลยออกไปจากตัวรถโฟล์คลิฟท์มากๆ ตั้งหลักให้ดี กะระยะให้รถโฟล์คลิฟท์วิ่งไประหว่างกึ่งกลางของทางวิ่ง
อันจะเป็นการป้องกันมิให้เกิดการกระทบกระทั่ง จนเกิดความเสียหายต่อสิ่งของหรือตัวบุคคล
อย่ายื่นมือหรือเท้าออกนอกเขตตัวรถโฟล์คลิฟท์
ขณะขับรถโฟล์คลิฟท์ อย่ายื่นแขน-เท้าหรือส่วนหนึ่งส่วนใดออกนอกตัวรถโฟล์คลิฟท์ อวัยวะเหล่านี้มีเพียงติดตัวมาเท่านั้น
เปลี่ยนไม่ได้เหมือนอะไหล่รถโฟล์คลิฟท์ ควรรักษาไว้ให้ดี
ระวังท้ายปัด
ในสถานที่ที่ค่อนข้างแคบ ควรระวังท้ายรถโฟล์คลิฟท์ เวลาเลี้ยวท้ายรถโฟล์คลิฟท์อาจจะไปกระทบกับเสาหรือกำแพงได้
อย่ายกงาค้างเอาไว้
เมื่อวิ่งรถโฟล์คลิฟท์เปล่า ควรลดลงไว้ในระดับต่ำเสมอ เพื่อป้องกันมิให้งาไปเฉี่ยวหรือทิ่มแทงสิ่งของหรือตัวบุคคล
บรรทุกของใหญ่ของสูง วิธีดีที่สุดคือวิ่งถอยหลัง
ถ้าไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดช่วยบอกทางให้ เมื่อบรรทุกของใหญ่
หรือของจำนวนมากๆ อันทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้า ถอยหลังวิ่งดีที่สุด
สังเกตพื้นที่จำกัดน้ำหนัก
อย่า – ตายใจพื้นต่อหรือเสริมจะรับน้ำหนักรถโฟล์คลิฟท์ได้ ไม่ว่าจะบรรทุกของหรือเป็นรถโฟล์คลิฟท์เปล่าๆ
ควรสอบให้แน่ใจว่าพื้นต่อหรือพื้นเสริมนั้นๆ ตรึงไว้แน่นและแข็งแรง พอที่จะรับน้ำหนักรถโฟล์คลิฟท์ของเราได้
ห้ามล้อและวัสดุกันมิให้ล้อเลื่อน
เมื่อต้องทำงานโดยให้รถโฟล์คลิฟท์ยกของลงจากรถบรรทุก ขอให้แน่ใจว่ารถบรรทุกนั้นๆ ให้ห้ามล้อ
และใช้วัสดุที่กันมิให้เกิดการไหลของรถโฟล์คลิฟท์ไว้แล้ว เพราะถ้ารถบรรทุกเกิดเลื่อนออกไปข้างหน้า
อุบัติเหตุร้ายแรงจะเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์แน่นอน
การขับขึ้นที่ชันหรือลงที่ต่ำ
การขึ้นที่ชันให้เดินหน้าขึ้น และเมื่อจะลงที่ลาดต่ำ ให้ถอยหลังลง อย่าบรรทุกของและเดินหน้าสู่ที่ต่ำของอาจเลื่อนตกได้
พึงระวังไว้ว่า ในกรณีนี้ควรเดินหน้าหรือถอยหลังช้าๆ
ควรมีผู้ช่วยบอกทาง เมื่อบรรทุกของสูงใหญ่บังสายตา
เมื่อบรรทุกของใหญ่ และบังสายตามองทางข้างหน้าไม่เห็น
ควรมีผู้ช่วยบอกทาง เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
อย่าใช้รถโฟล์คลิฟท์แทนลิฟท์
รถโฟล์คลิฟท์ออกแบบมาเพื่อความสะอาดในการยกสิ่งของ มิใช่เป็นลิฟท์สำหรับบุคคล อันตรายมากในกรณีที่ไปใช้เช่นนั้น
รถโฟล์คลิฟท์มิใช่รถเมล์
อย่านำรถโฟล์คลิฟท์ไปยกของอื่นที่ทางโรงงานไม่ได้ออกแบบให้ยก ไม่เป็นการปลอดภัยเลยที่จะบรรทุกผู้คนไปบนรถโฟล์คลิฟท์
ดับเครื่องยนต์เมื่อเลิกใช้งาน
ไม่ควรจอดรถโฟล์คลิฟท์ไว้ที่มีพื้นที่มีพื้นลาดเอียง เพราะอาจจะไหลไป ชนใครต่อใครได้
ไม่ควรลืมห้ามล้อ ปลดเกียร์ว่างและดับเครื่องยนต์เสีย
ห้ามสูบบุหรี่ขณะเติมเชื้อเพลิง
ดับเครื่องยนต์ เมื่อเติมน้ำมัน หรือตรวจสอบแบตเตอรี่ ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด
ตรวจตรารถโฟล์คลิฟท์เมื่อเลิกงาน
การหมั่นตรวจตรารถโฟล์คลิฟท์เป็นเรื่องที่ดี ช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าโสหุ้ยในการซ่อม และยังส่งผลความปลอดภัย
มายังผู้ขับขี่ด้วย ถ้าตรวจพบสิ่งผิดปกติในการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์รีบรายงานต่อผู้รับผิดชอบทันที
เรียนรู้เกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์ให้มากที่สุดแล้วท่านจะสะดวกใจ
ท่านจะใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ FORX ได้ด้วยความมั่นใจ ในความปลอดภัย สะดวกและรวดเร็ว
ถ้าปฏิบัติตามข้อแนะนำต่างๆ ตามที่แจ้งให้ทราบแล้ว